Saturday 20 September 2014

27w 2d - a week after OGTT // 3rd trimester symtoms


* * *

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2557 (20140920)

ผ่านไป 1 อาทิตย์หลังจาก OGTT ถือว่าได้คุมปริมาณอาหาร+กินคลีนแบบสุดโต่งมากๆ ผลเจาะเลือดก็ผ่านทุกครั้งทุกมื้อทุกวันได้อย่างน่าพอใจ แต่แทนที่จะอารมณ์ดีเพราะได้กินแต่ของมีประโยชน์ กลับรู้สึกอึนๆ มันอึดอัดกับการกินคลีนมากเกินไปจนตอนนี้อยากไปกินข้าวนอกบ้านมากๆ
แต่ไม่ได้อยากไปกินพวกของหวาน ไอติม เค้ก อะไรพวกนี้นะ แค่ขอให้ได้ออกไปกินข้างนอกก็พอแล้ว แต่ก็ยังเหลืออีก 1 อาทิตย์กว่าจะได้เจอนักโภชนาการ ก็ต้องทนกินแบบจืดชืดไร้การปรุงรสกันต่อไป
(แต่ถ้ากินสลัด ใส่น้ำสลัดได้ 2 ช้อนชานะ 55555)


ผลจากการกินคลีน+ออกกำลัง ตอนนี้น้ำหนักลงไปเกือบ 2 กิโล น้ำหนักขึ้นโดยรวมทั้งหมดก็ประมาณ 8 กิโลนิดๆ ตอนแรกก็รู้สึกดีที่น้ำหนักลด เพราะอยากให้มันลดลงหน่อย หรือชะลอที่จะขึ้น แต่นี่น้ำหนักไม่ขึ้นมาประมาณเดือนครึ่งละ เลยเริ่มกังวลนิดหน่อย แต่คิดว่าราโฮปน้อยไม่น่าได้รับผลกระทบเท่าไหร่ เพราะแม่กินแต่อาหารมีประโยชน์+ออกกำลัง และยังดิ้นพุงสั่นสะเทือนเหมือนเดิม :)



ตอนนี้เข้าไตรมาส 3 อย่างเต็มตัว ตอนแรกนึกว่า 24w คือเริ่มไตรมาส 3 ซะอีก >< ขออัพเดทอาการคุณแม่นิดหน่อย

// 3-4 วันที่ผ่านมาเริ่มมีอาการแขน ขาชา โดยเฉพาะขานี่ไม่ได้ชาแบบเล่นๆ ชาแบบเดินไม่ได้เลยทีเดียว อย่างปกติเราจะเดินไปเรียนโยคะ ใช้เวลา 30 นาทีในการเดิน แต่เมื่อวานรู้สึกเหมือนขาไม่มีแรง เลยนั่งรถเมล์ไป พอเดินข้ามสะพานลอยไปถึงยอด ขาขวาชามากกกกก ขยับแทบไม่ได้ ต้องหาที่เกาะแล้วหยุดพัก และเกือบจากออกจากคลาสโยคะกลางคันเพราะหมดแรง แต่พอได้ทำท่า stretching ทั้งหลายเลยรู้สึกดีขึ้น ก็ฝืนๆเล่นต่อให้ครบชั่วโมง ท่าไหนใช้แรงก็ไม่ทำ
พอจบคลาส ไปนั่งให้เครื่องนวดขาประมาณ 10 นาที รู้สึกดีมากกกกก อยากจะขโมยเครื่องกลับมาบ้านมากๆ 5555555555
พอเย็นๆ เริ่มแขนชา ข้างขวานี่หมดแรงเลย นวดยังไงก็ไม่หาย เป็นหลายชั่วโมงจนนอนไม่หลับเพราะหงุดหงิดกับอาการแบบนี้มาก กว่าจะได้หลับจริงๆก็ตี 2-3 ได้มั๊ง T___T


// พุงแดงตั้งแต่ช่วงสะดือลงไป จริงๆแดงมาสักพักแล้ว มีอาการแสบผิวเหมือนโดนแดดเผา หลังๆมานี่เริ่มคันนิดหน่อย สามีเลยไปหาครีมมาเปลี่ยนให้ สั่งมาส่งที่บ้านให้เรียบร้อย :D





ตัวซ้ายเป็นครีม ขวาเป็นออยล์(สั่งมาเผื่อไว้หน้าหนาว อากาศแห้ง)
สามีบอกคนเกาหลีใช้กันเยอะ feedback ดีมาก ราคาก็แรงตามคุณภาพเช่นกัน 55555
ตอนแรกใช้ bio-oil กับ นีเวียกระปุกน้ำเงิน ตอนนี้วางกองไว้เฉยๆเลย เพราะยี่ห้อนี้มันดีกว่ามากๆ (สามีบอกว่า บางทีของแพงมันก็มีเหตุผลที่แพงนะ แถมยังดุอีกว่า บอกแล้วให้ใช้ของดีๆตั้งแต่แรกก็ไม่เชื่อ -"-)

เท่าที่ใช้มานะ ผิวสัมผัสมันนุ่มมากกกกกกกก ทาแล้วผิวนุ่มมมม รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง เก็บกักน้ำ ไม่เหนอะหนะ พุงไม่หายแดงแต่หายคันเลย อเมซซิ่งสุดๆ XD
ส่วนตัวแล้วไม่สนว่าท้องจะลายหรือไม่ลายเท่าไหร่ ท้องลายก็ช่างมัน แต่ไม่ชอบที่มันแสบๆคันๆ เดินไปเกาไปเสียบุคลิคอ่ะเน้อ


// ท้องแข็งบ้าง แต่ไม่เจ็บ แข็งประมาณนับ 1-10 ก็หายแข็ง ส่วนใหญ่ท้องจะแข็งช่วงที่ปวดฉิ๊งฉ่อง กับนอนหงายตอนกลางคืน คิดว่าน่าจะเป็นอาการปกติของคนท้อง ไม่น่ามีปัญหาอะไร


// ราโฮปน้อยชอบดิ้นตอนเช้าหลังแม่ตื่น กับตอนก่อนนอน โดยเฉพาะเวลาแม่นอนตะแคง ดิ้นเยอะมากๆ พุงกระเพื่อมเลย ไม่รู้จะดิ้นแรงจนแม่จุกตอนไหนหนอ :D
เหลืออีก 86 วันถึงกำหนดคลอด ก่อนหน้านี้ยังไม่ต้องรีบออกมาน๊า แม่รอได้ แม่ไม่รีบ ถึงจะอยากเห็นหน้า อยากอุ้มแค่ไหนก็ตามแม่ก็รอได้  ^_______^




ขออัพเดทน้องจินหน่อย 
ช่วงนี้ขี้อ้อนมากกกก ติดแม่มากกกกกกกก ต้องนอนบนตักตลอด จากที่ขาชาบ่อยๆ เลยชามันแทบทั้งวันเพราะโดนทับ -"-
แล้วก้ชอบมานอนซบพุง โดนน้องเตะก็ไม่ลุกไปไหน แม่จะตะแคงซ้ายหรือขวาก็จะตามมานอนซบตรงพุงเหมือนเดิม ทั้งๆที่ปกติจะไม่ตามติดขนาดนี้ ^^
หลังๆมานี่อากาศดี เข้าออทั่มแล้ว บวกกับต้องเดินออกกำลังหลังอาหาร เลยพาจินออกไปเดินบ่อยหน่อย แต่อย่างที่บอกว่าช่วงนี้แขนขาหมดแรงมาก ปกติต้องอุ้มพาจินกลับบ้านเพราะเธอชอบไปไกลๆ และเดินกลับไม่ไหว
วันนี้ก็เหมือนกัน ไปไกลมาก ขากลับอุ้มกลับได้แป๊บนึงก็บอกน้องจิน แขนแม่ไม่มีแรงแล้ว นี่ก็ใกล้ถึงบ้านแล้ว จินเดินเองได้มั๊ย เชื่อมั๊ยว่าเธอยอมเดินจนถึงบ้านเลย




พอถึงบ้านก็ไปนั่งอาบแดดหน้าระเบียง วันนี้เป็นเด็กดีเลยให้บิสกิตเป็นรางวัล กินไป อาบแดดไป มีความสุขเค้าล่ะ :D





สักพักก็ชวนเล่นกับพี่กระต่าย พี่กระต่ายนี่เป็นเพื่อนสุดโปรดของน้องจินมากกกก อยู่กันมาตั้งแต่แรกๆ เพื่อนอีกคนที่เธอโปรดปรานก็คือพี่อึนะ 555











ซื้อมาแล้วเล่นคุ้มมาก เพราะจินตัวเล็กอยู่แล้ว ฟัดกับพี่กระต่ายไม่แรงมาก แขนขาเลยยังอยู่ในสภาพดี แต่เธอชอบกัดจมูก ด้ายที่เย็บเป็นจมูกเลยหลุดหลุ่ยมานานละ แต่แม่ก็ขึ้เกียจเย็บนะ เล่นแบบนี้ต่อไปละกัน 55555555










Saturday 13 September 2014

26w 2d - Oral Glucose Tolerance Test

* * *

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2557 (20140913)


สามีพาไปโรงพยาบาลแต่เช้าเพื่อไปตรวจ Oral Glucose Tolerance Test ผลปรากฏว่าไม่ผ่าน :(
รอบนี้จะตรวจแบบเจาะเลือดที่นิ้วมื้อทั้ง 4 รอบ อ่านเจอว่าของที่ไทยจะต้องเจาะผ่านเส้นเลือด บางทีก็ต้องคาเข็มทิ้งไว้เลย โหดร้ายมาก ><

รอบแรกเจาะโดยที่ยังไม่กินกลูโคส : 81/95
รอบสอง หลังกินกลูโคส 1 ชม. : 224/180
รอบสาม อีก 1 ชม.ต่อมา : 196/155
รอบสี่ อีก 1 ชม.ต่อมา : 169/140

ตัวเลขแรกคือค่าที่วัดได้ ตัวเลขหลังคือ ค่าที่ไม่ควรเกิน

ตกทั้ง 3 เข็มหลังกินกลูโคสเลย หมอเลยให้ไปพบนักโภชนาการ ตอนนั้นเครียดเลย ยอมรับว่าน้ำตาจะไหล เพราะลองหาข้อมูลในเนท คนที่ไม่ผ่านส่วนใหญ่จะกินพวกขนมหวาน ชมนมไข่มุก น้ำผลไม้กล่อง ขนมปัง เอาง่ายๆคือ กินของไม่มีประโยชน์เยอะกว่าเราอีก แต่ทำไมค่าของเรามันถึงสูงกว่าเค้าได้
พยายามกลั้นน้ำตามากๆ เพราะไม่อยากให้สามีห่วง แค่ผลออกมาแบบนี้เค้าก็กังวลแทนแล้ว :(

พอได้เข้าพบคุณหมอนักโภชนาการ เค้าก็ถามถึงน้ำหนักก่อนท้อง น้ำหนักล่าสุด และประวัติเบาหวานในครอบครัว(ซึ่งคุณตาเป็นเบาหวาน) และบอกว่า ค่าที่เราได้มันค่อนข้างสูงนะ






หมออธิบายถึงการกินอาหารให้ รวมถึงการจำกัดปริมาณ อะไรควร และไม่ควรกิน
รวมถึงให้เดินออกกำลังอย่างน้อย 1 ชม.ทุกมื้อหลังอาหาร







และต้องจดว่าแต่ละมื้อกินอะไร รวมถึงเวลาที่เจาะเลือดตรวจเองที่บ้านด้วย.....
ใช่แล้ว ต้องคอยเจาะเลือดตรวจเองที่บ้าน ไม่นึกไม่ฝันว่าชีวิตนี้จะต้องทำเลย :(
ทำอย่างนี้ 2 อาทิตย์ละกลับไปดูผลกันใหม่ หวังว่าจะสำเร็จนะ T^T







เสร็จจากโรงพยาบาลก็ไม่ร้านขายยา ขอซื้อที่ตรวจน้ำตาลคุมเบาหวาน
กล่องเล็กๆข้างๆคือ สำลีแอลกอฮอล์ไว้เช็ดก่อนเจาะ เข็ม และแผ่นวัดระดับน้ำตาล







ภายในกล่องจะมีเครื่องวัด กับปากกาใส่เข็มไว้เจาะ (แอบคิดว่าคงจะเอามือนี่แหละถือเข็มเจาะเลย ปากกานี่มันแลน่ากลัวกว่าแฮะ ><)







เภสัชอธิบายว่า พอใส่แผ่นวัดระดับน้ำตาลแล้วเครื่องจะทำงานได้เองเลย เจาะเลือดเสร็จก็เอาส่วนปลายไปนาบกับเลือดได้เลย





ปากกาใส่เข็มเจาะ ลองใส่เข็มไปแล้ว แต่งงว่าจะให้มันเจาะยังไง 555555
มีปรับระดับความลึกที่เข็มจะเจาะได้ แต่ระดับกลางๆก็ระดับ 3 พอ :)





จริงๆก็ไม่รู้ว่า พอมาถึงระดับนี้จะถือว่าเป็นเบาหวานรึยังนะ หวังว่าจะยัง T^T และหวังว่าจะคุมอาหารผ่าน เพราะถ้าไม่ผ่าน ลำดับต่อไปคือการฉีดอินซูลิน ซึ่งน่ากลัวกว่าการเจาะเลือดเองที่บ้านอีก แต่ก็จะพยายามต่อไปเพื่อลูกนะ วันนี้ลูบพุงและบอกราโฮปน้อยว่าเรามาพยายามด้วยกันนะ แม่จะทำให้ได้นะ :)




ตอนเย็นโทรคุยกับพ่อ ตอนคุยก็น้ำตาจะไหล มีแค่ 2 คนบนโลกนี้ที่ทำให้เรากล้าแสดงความอ่อนแอออกมาก็คือพ่อกับสามีนี่แหละ :')
พ่อบอก บางทีร่างกายคนเราก็ไม่เหมือนกัน บางคนยังเผาผลาญได้ดีกว่าอีกคน บางคนกินยังไงก็ไม่อ้วน บางคนกินนิดเดียวก็อ้วน พ่อให้กำลังใจว่า ร่างกายเราอาจจะเผาผลาญน้ำตาลได้ไม่ดี ให้พยายามคุมตามที่หมอบอกให้ดีๆ ห้ามหลุดเลย :)


อาหารเย็นวันนี้เลยต้องเป็น ข้าวไม่ขัดสี ปลาย่าง แครอท แตงกวา ออกไปเดินๆแกว่งแขนประมาณ 30 นาที 2 ชั่วโมงต่อมาลองวัดแล้วได้ 99/120 (ตอนเย็นต้องไม่ให้เกิน 120) น้ำตาแทบไหลด้วยความดีใจ T_______T
โทรบอกสามีเรื่องตัวเลขที่วัดได้ สามีบอก หรือเพราะยูเกร็ง และเครียดตอนวัดที่โรงพยาบาล ตัวเลขมันเลยขึ้นสูง 555 ไม่น่าเกี่ยวนะ แต่พอวัดครั้งแรกผลออกมาเป็นงี๊แล้วโล่งเลย
สามีบอกอีกว่า เค้าอ่านจากบล็อคของคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับเรา จขบ.บอกว่า เค้าเครียด เพราะไม่ได้กินของที่อยากกิน และกลัวลูกจะเป็นอะไรไป แต่พอผ่านไปแล้ว ลูกเกิดมาไม่มีปัญหา คลอดไม่ยาก คลอดตามกำหนด ทุกอย่างที่อดทนมามันคุ้ม
เพราะฉะนั้นพยายามต่อไปเนอะ เราจะไม่ยอมแพ้ สู้ๆ!!!



Thursday 11 September 2014

25w 6d - Glucose Challenge Test // 3D Ultrasound

* * *

วันพุธที่ 10 กันยายน 2557 (20140910)



วันนี้มีนัดตรวจ Glucose Challenge Test คิดว่าคนท้องที่เกาหลีจะโดนจับตรวจทุกคนนะ เมื่อรอบที่แล้วที่เจอหมอ หมอก็จ่ายกลูโคสไว้ให้ก่อนเลย




หน้าตาเป็นเยี่ยงนี้ รสส้ม รสชาติหวานมาก ><
ซึ่งการตรวจคัดกรองรอบแรก จะให้ดื่มกลูโคส 50g แล้ว 1 ชั่วโมงต่อมาก็เจาะเลือดตรวจ อ่านในเนทเจอว่าตรวจรอบแรกไม่ต้องอดข้าวไป(แต่หลังจากดื่มแล้วห้ามดื่มน้ำตามเด็ดขาด) แต่สามีไม่แน่ใจ เลยบอกให้ไม่ต้องกินข้าวเช้า แล้วก็พามาโรงพยาบาลแต่เช้าเลย -__-'

เจาะเลือดเสร็จก็เข้าไปชั่งน้ำหนัก+วัดความดัน ลุ้นน้ำหนักมาก เพราะรอบที่แล้วมันขึ้นมา 3kg ใน 2วีค หมอให้ขึ้นแค่เดือนละ 2kg เท่านั้น
และผลจากโยคะ และเดินไปมาร์ท 3km บ่อยๆ ทำให้น้ำหนักขึ้นมาแค่ 2 โล ดีใจมากกกกกก ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จ >______<
แต่นี่เข้าไตรมาส 3 แล้ว ได้ยินว่าน้ำหนักจะขึ้นไวมาก แต่ก็จะพยายามออกกำลัง คุมน้ำหนักต่อไป




ตอนรอผลตรวจก็เข้าไป u/s ก่อน วันนี้นัด u/s แบบ 3D ไว้ ยอมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อความทรงจำอ่ะนะ 5555

ตอนซาวด์ หมอที่ซาวด์บอกราโฮปน้อยนอนอยู่ รอบนี้ซาวด์ยากหน่อย เพราะเธอนอนเอามือปิดหน้า เอาขาหลบ เอาหน้าซุกผนังพุงแม่ จะนับนิ้วมือนิ้วเท้าก็ไม่ได้ จะดูหน้าก็ไม่ได้ หมอซาวด์อยู่สักพัก กดๆท้องให้เอามือออก ให้ลองนอนตะแคงซ้าย/ขวายังไงเธอก็ไม่ยอมขยับเลย อะไรจะหลับลึกขนาดนั้น 
หมอเลยบอกให้ไปเดินสัก 10 นาทีแล้วกลับมาใหม่





รอบนี้ยอมเอามือออกแล้ว แต่ก็ยังหลับอยู่ดี ดูท่าแล้วจะหลับลึกเหมือนพ่อแน่ๆ รายนั้นหลับง่ายมาก 555

ได้เห็นหน้าแบบชัดๆ นี่หรือลูกเรา เหมือนใครน๊า รู้แต่หน้ากลมเหมือนพ่อเลย
// สามีเถียงว่า ปกติก็ไม่มีเด็กคนไหนหน้า v-shape มาตั้งแต่เกิดไม่ใช่หรอ ก็กลมกันหมดนั่นแหละ 5555555 
และรู้สึกว่าได้จมูกบานๆมาจากแม่ เอาไปทำไมเนี่ย น่าจะได้จมูกพ่อไป เพราะพ่อจมูกเรียวสวยอ่ะ ><





จมูกบานจริงๆ -____-'







หมอนับนิ้วมือให้อีกรอบ มือซ้ายชัดมากเพราะราโฮปน้อยโชว์ให้ดู แต่มือขวานี่ยังหนีบๆอยู่ เลยได้แค่นี้ 





นับนิ้วเท้า :)

เหมือนนิ้วมือ แต่รอบนี้เท้าซ้ายไม่ชัดเพราะเธอหนีบ ส่วนเท้าขวาชัดแจ๋วเลย :D

แล้วก็ได้ฟังเสียงหัวใจ ซาวด์ที่นี่หมอให้ฟังเสียงหัวใจทุกครั้ง อัตราการเต้นปกติดี ไม่มีปัญหา
ตอนนี้ราโฮปน้อยน้ำหนัก 860g แล้ว จะกิโลแล้วนะเนี่ย ^___^ 

ราโฮปน้อยมีขยับหัวนิดนึง คงรำคาญคนกำลังนอนดันมาปลุก ขยับนิดเดียวสะเทือนเยอะมาก ตกใจเลยว่าที่ผ่านๆมา ที่รู้สึกสะเทือนนี่เพราะขยับแค่นิดเดียวเองหรอเนี่ย งั้นตอนที่สะเทือนไปทั้งพุงนี่ขยับแค่ไหนกัน





หลังจากซาวด์เสร็จก็เข้าไปพบหมอที่ดูแลเรา ฟังผลเรื่อง
Glucose Challenge Test

เลขที่ออกคือ..... 185 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ตกรอบแรกเลย 555555 ปกติจะไม่ควรเกิน 145 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หมอเลยจะให้ตรวจ Oral Glucose Tolerance Test วันเสาร์นี้ แต่รอบนี้ต้องงดอาหารและน้ำ 8 ชั่วโมงก่อนตรวจ มาถึงโรงพยบาลก็เจาะเลือดตรวจก่อนโดยที่ยังไม่ต้องดื่มกลูโคส เจาะเสร็จก็ดื่ม ดื่มเสร็จก็เจาะเลือดตรวจทุกชั่วโมงไปอีก 3 ครั้ง(ครั้งละทุก 1 ชั่วโมง) 
คาดว่าวันนั้นคงโมโหหิวแน่ๆ ใครยื่นอาหารให้เราจะกัดมือ แฮ่~~~

ถามหมอว่า ทำไมตัวเลขถึงขึ้นสูงได้ เพราะเราไม่ได้กินขนมเลย หมอบอกอาจเป็นเพราะอาหารช่วงชูซ็อกที่เพิ่งผ่านมา เพราะมีแต่ของทอด ของมัน แคลลอรี่เยอะๆทั้งนั้น (ก็น่าจะจริง กินจนเอียนเลย)


เสร็จจากโรงพยาบาลก็เดินไปกินคัมจาทังกัน ระหว่างกินสามีก็หาข้อมูลเรื่องเบาหวาน อาหารที่ควรงด ปรากฏว่าต้องกลับไปกินอาหารไม่ปรุงรสเหมือนเดิม แต่ก็แค่ 7 มื้อเท่านั้น เราก็ชิลๆไม่ซีเรียสอะไร แค่ไม่กี่มื้อเอง เพื่อลูกทำได้อยู่แล้วเนอะ ^^




สามีบอกอีกว่า ส่วนใหญ่จะไม่ผ่านรอบแรก แต่จะไปผ่านรอบสองกัน และหลังจากผ่านก็จะอยากกิน Junk Food ขึ้นมาทันที หลังจากที่คุมอาหารมาสักพัก 5555555 ซึ่งจริงๆกะว่าจะให้รางวัลตัวเองที่คุมน้ำหนักได้สำเร็จด้วยไอติม Coldstone ไม่ก็ Godiva สักถ้วย แต่ต้องมาคุมอาหารต่ออีกหน่อยเลยอดกินเลย
แต่สามีบอก ไว้ผ่านแล้วจะพาไปกินแน่นอน :D
ปล. จำได้ว่ากินไอติมครั้งสุดท้ายก็ตอนที่ท้องอ่อนๆ ยังไม่แพ้ท้อง มันหลายเดือนมาแล้วสินะ โอวววว




Tuesday 9 September 2014

Gwanggyo Lake Park again

* * *

เมื่อวานเป็นวันไหว์พระจันทร์ Thanks Giving Day หรือคนเกาหลีเรียกว่า ชูซ็อก(추석) ซึ่งเป็นวันหยุด และหยุดต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ ส่วนบริษัทสามีได้หยุดถึงวันพฤหัส อิอิ

ช่วงไหว้พระจันทร์ของคนเกาหลี ไม่ได้มีขนมไหว้พระจันทร์แบบบ้านเรา แต่จะเป็นการไปเคารพหลุมศพของบรรพบุรุษ และจะมีการเตรียมอาหารค่อนข้างเยอะ ปกติเราจะช่วยแม่สามีทุกปี แต่เพราะปีนี้ท้อง แม่เลยไม่ยอมให้ช่วยเลย :)


และอาหารส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อวัว ซึ่งเราเลิกกินมาหลายปีแล้ว แต่เพราะท้องเลยกลับมากินเพราะอยากได้สารอาหารเพิ่มขึ้นหน่อย(เพราะก่อนหน้านี้กินได้แต่หมูกับไก่ ไม่กินอาหารทะเลเลย) และเนื่องจากไม่ได้กินมานาน เลยรู้สึกว่ามันเหม็นมากกกก แล้วกินติดๆกันเกือบทุกมื้อ ทุกวันมา 3 วันตั้งแต่วันเสาร์-จันทร์ วันนี้มากินอีกเลยผะอืดผะอมมาก เอียน เลี่ยน อยากจะอาเจียนสุดๆ แถมแม่ยังห่อกลับมาให้มีแต่เนื้อวัวเต็มตู้เย็น เลยบอกสามี ยูกินคนเดียวนะ ไอไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้ว T_______T


= = = = = = = = = = =


วันนี้ วันอังคารที่ 9 กันยายน 2557 (20140909) 


ตื่นกันเช้ามาก พูดเปรยๆว่าอยากพาจินออกไปเดินเล่นหน่อย สามีเลยชวนกันไปที่เดิม Gwanggyo Lake Park ที่โปรดที่ใหม่ของพวกเราและจินดัลเร :D









(เสื้อเลอะเพราะหนีบขวดน้ำที่มันเลอะไว้ เพิ่งเห็นตอนเอารูปลงคอมนะเนี่ย ><)
//น้องจินตัดขนแล้ว เป็นหมาเกรียน 55555


รอบนี้ GPS นำไปอีกทาง เลยได้จอดรถอีกฝั่งของทะเลสาป ได้เดินเล่นฝั่งตรงข้ามกับรอบที่แล้ว จริงๆรอบที่แล้วยังเดินไม่ถึงทะเลสาปเลย สวนมันกว้างจัด 555 เท่าที่เดินมา 2 ฝั่ง ฝั่งนี้จะเป็นลานกว้างๆ และด้านตรงข้ามของฝั่งถนนจะเป็นพวกคาเฟ่ ร้านอาหาร น่ามานั่งเหมือนกัน ส่วนอีกฝั่งจะเป็นสนามหญ้า ต้นไม้เยอะหน่อย แต่ส่วนตัวก็ชอบทั้ง 2 ฝั่งนะ :D










ทางเดินริมทะเลสาป ^^











วันนี้เอาไปแต่ฟิชอายล่ะเน้อ รูปนี้พุงสามีใหญ่มาก เดี๋ยวนี้เวลาพูดอะไรกวนๆใส่ จะชอบเดินเอาพุงมาชนพุง 5555











เก้าอี้ตรงสนามหญ้าน่านั่งมาก :)












ขาเดินกลับก็ไม่ต้องสงสัย ต้องให้อุ้มเหมือนเดิม 555555
เห็นขนตายาวๆของน้องจินมั๊ย ช่างตัดขนเก่งมาก ไม่รู้เว้นไว้ได้ยังไง สามีบอกได้ฟิลเหมือนคิ้วคุณยาย ส่วนเรารู้สึกว่าเหมือนคิ้วฤาษีนะ ;p











ขากลับบ้านรถไม่ติดเลย ขามาก็ไม่ติด เพราะมากันตอนเช้า อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันหยุดอีกวัน แต่คิดว่าบ่ายกับเย็นนี้รถน่าจะติดเยอะมากก เพราะคนกลับมาจากต่างจังหวัดกัน วันไหว้พระจันทร์ส่วนใหญ่จะกลับไปไหว้บรรพบุรุษ แล้วก็จะไปค้างที่บ้านพ่อแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดกัน ถือเป็นวันเยี่ยมญาติอีกวัน รองจากวันปีใหม่เกาหลี ซึ่งถ้าใครจะมาเกาหลีต้องเช็ควันดีๆ ถ้ามาช่วง 2 วันนี้ล่ะก็ ร้านรวงจะปิดหมด(แต่ไม่แน่ใจพวกสถานที่ท่องเที่ยวนะ) ปิดแม้กระทั่งห้าง หรือ ร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมงในบางพื้นที่ โซลกลายเป็นเมืองร้างเลยทีเดียวเชียว :)










วันนี้ลาไปด้วยพุง 25w 5d 
เคยได้ยินมาว่า ลูกชายพุงจะแหลม ลูกสาวพุงจะกลม แต่เคยอ่านเจอจากเพจหมอว่ามันขึ้นอยู่กับสรีระของแต่ละคนด้วยอ่ะนะ ส่วนตัวคิดว่า พุงเรามันแหลมหน่อยๆ จะโย้ยตรงท้องน้อย ไม่ได้กลมดิ๊กอะไรขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้แหลมเฟี้ยวทิ่มแทงใครเหมือนกัน 55555






Monday 1 September 2014

Gwanggyo Lake Park

* * *

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2557 (20140830)



เมื่อวันเสาร์สามีชวนกันพาจินไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะที่ๆเราไม่เคยไปกันชื่อว่า Gwanggyo Lake Park สวนสาธารณะนี้อยู่แถวซูวอน อีกเมืองใหญ่ที่อยู่ทางใต้ของโซล จริงๆจากบ้านเราขับรถไปแค่ 30 นาทีก็ถึงแล้ว แต่ดันไม่เคยมาเลย ปกติจะชอบพาจินไปเดินที่ Ilsan Lake Park ซึ่งห่างจากบ้านเราไปตั้งเกือบชั่วโมง ><


































เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่มากกกกกกกกกกกกอีกที่ คนพลุกพล่านกว่าที่อิลซันหน่อย แต่ไม่รู้เป็นเพราะมาช่วงเย็นรึเปล่า ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงนิดหน่อย บางวันไม่ถึง 30 องศาแล้ว กลางคืนแถวบ้านนี่บางทีลงมาไม่ถึง 20 องศาเลย ช่วงเย็นๆอากาศสบายๆคนคงออกมาเดินเล่นกัน ^^






































พุงกลมๆ 23w 3d XD~~





































































น้องจินเดินจนหอบแฮ่กๆ เดินกลับเองไม่ไหวจนต้องให้อุ้มอย่างที่เห็น 555





































จริงๆวันนั้นมีงาน Jazz Festival ด้วย อากาศสบายๆ ฟังเพลงเบาๆ บรรยากาศคงดีไม่น้อย แต่ครอบครัวเราไม่ได้อยู่ฟังกัน เพราะต้องรีบกลับมาทำข้าวเย็น (สามีทำนะ ภรรยารอกินอย่างเดียว ;p)





































































เดินต่ออีกนิดหน่อยก็กลับบ้านกัน ตอนขามา ที่จอดรถวุ่นวายมาก เพราะคนจอดขวางทางกัน แล้วทางเดินรถเป็นเลนสวน ทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ คิดว่ารถเยอะเพราะงาน Jazz ด้วย ตอนขาออก ก็ขยับไม่ได้อีกรอบ กว่าจะหลุดออกมาได้ต้องช่วยๆกับขยับรถมากๆ สงสัยว่ามีงานแบบนี้ทำไมถึงไม่มีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลนะ -"-




































ลาไปด้วยรูปสุดท้าย รูปครอบครัว ^___^