Monday 25 August 2014

21w 2d - Day Care Care Center


* * *

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2557 (20140809)

วันนี้มีนัดหมอไว้ตอน 15.20น. ก่อนหน้านั้นเรากับสามีเลยไปดูโรงพยาบาลที่จะพักฟื้น(산후조리원)กันก่อน คนเกาหลีส่วนใหญ่พอคลอดแล้วจะไปอยู่โรงพยาบาลพักฟื้นกัน จริงๆจะเรียกว่าโรงพยาบาลก็ไม่เชิง มันเหมือนเป็น care center มากกว่า

สามีเสริชหามาได้ 3 ที่ที่อยู่ใกล้บ้านและโรงพยาบาลที่จะคลอด มี 3 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ และมันก็ เก่า กลาง ใหม่ ตามลำดับ 55
เราไปดูที่ขนาดกลางกันก่อน เพราะมันอยู่ใกล้ๆขนาดใหญ่ กะว่าพอดูที่นี่เสร็จแล้วก็เดินไปที่โน้นต่อเลย สถานที่อยู่ห่างจากโรงพยาบาลที่เราจะคลอดไปแค่ประมาณ 5 นาที(เดิน) ชื่อว่า Day Care Care Center (데이케어산후조리원)ซึ่งเป็นที่ๆเราเลือกไปพัก และจองไว้แล้ว

เวลาไปถึงจะต้องกดเรียกให้พนักงานเปิดประตูให้ พอเดินเข้าไปพนักงานจะเอายาฆ่าเชื้อมาฉีดเสื้อผ้าให้ทั่วตัว แล้วเค้าก็พาไปแนะนำการบริการต่างๆ ซึ่งจริงๆแล้วแต่ละสถานที่ก็จะบริการคล้ายๆกัน คือ ดูแลลูกให้ อาบน้ำให้ และพาไปให้ลูกดูดนมเวลาที่ลูกร้อง เอาง่ายๆว่า 2 อาทิตย์ที่อยู่หลังคลอดนี่คือเวลาพักผ่อนของแม่จริงๆ

ทุกสถานที่จะแยกเด็กไว้ และเดินเข้าออกห้องพักได้แค่คุณแม่และสามี ญาติๆดูน้องได้แค่ผ่านกระจก จะไม่ให้อุ้มเลยเพื่อป้องกันเชื้อโรคจะสู่เด็ก และเด็กคนอื่นๆที่อยู่ในห้องนั้นด้วย เราชอบที่นี่เพราะเค้าเน้นนมแม่ และมีแพทย์เกี่ยวกับนมแม่ด้วย มีบริการนวดนม ห้องพักมีทั้งแบบห้องน้ำแยกและรวม ห้องที่ไม่มีห้องน้ำในตัวจะกว้างกว่าหน่อย และสามีพักด้วยกันได้เราเลยเลือกแบบห้องน้ำแยก สามีจะได้อาบน้ำสะดวกๆหน่อย และได้ยินว่าที่นี่อาหารอร่อย อิอิ

ส่วนอีกที่ใหญ่กว่า แพงกว่า ใหม่กว่า แต่เราประทับใจที่แรกมากกว่าเลยเลือกที่แรก(เพราะเน้นเรื่องนมแม่มากๆ) และไม่ได้ไปดูอีกที่ที่เหลือเลย

รูปภาพของ Day Care Care Center เผื่อใครอยากเห็นหน้าตาก็จิ้มได้เลย >> http://blog.naver.com/info7279/40201611765


หลังจากนั้นก็รีบไปโรงพยาบาล เกือบเลยเวลานัด เจ้าหน้าที่โทรมาตามเลย >____<























































วันนี้นัดตรวจละเอียดหน่อย วัดขนาดตัว ขนาดหัว และเช็คอวัยวะอย่างละเอียด เช่น จมูก นับนิ้วมือ นิ้วเท้า หู 2 ข้าง ดูกระดูกสันหลัง ดูรูปปากว่าได้รูปดี ไม่เป็นปากแหว่งเพดานโหว่ อัตราการเต้นของหัวใจปกติ มีหัวใจ 4 ห้อง และการไหลเวียนโลหิตของแต่ละห้องทำงานได้ปกติ ฟังแค่นี้โล่งเลย เวลาซาวด์ทีไรไม่ขออะไรเลยนอกจากขอให้ลูกแข็งแรงอ่ะเนอะ ^_____^

// ราโฮปน้อยหาว 2 รอบติดกันเลยตอนซาวด์ น่ารักมากกกก เห็นแล้วน้ำตาคลอเลย อยากอุ้มไวๆจัง ^___^

หลังจากนั้นก็ไปวัดความดัน และชั่งน้ำหนัก ช็อคกับน้ำหนักมาก เพราะนัดห่างจากคราวที่แล้วแค่ 2 อาทิตย์ แต่น้ำหนักขึ้นมา 3 กิโลเลย พอเข้าไปพบหมอ คำแรกที่หมอทักคือ ไปกินอะไรมาทำไมน้ำหนักถึงได้ขึ้นไวขนาดนี้ แต่ปกติเราไม่ค่อยกินขนม กินอาหารเป็นมื้อๆ เน้นผัก ผลไม้ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมน้ำหนักถึงได้ขึ้นไวในระยะเวลาแค่ 2 อาทิตย์ได้ขนาดนี้ หมอบอกให้คุมมากกว่านี้อีก ให้ขึ้นเดือนละ 2 กิโลพอ นัดอีกทีเดือนหน้าจะทำได้มั๊ยเนี่ย T____T

หลังจากวันนั้นมาเราก็จิตตกเลย เครียดเล็กน้อย และรู้สึกนอยด์ว่าเพราะอะไร และทำไม ขนาดคนอื่นที่เค้ากินขนมนมเนยเยอะกว่าเรายังน้ำหนักไม่ขึ้นไว บางคนน้ำหนักโดยรวมขึ้นน้อยกว่าเราด้วยซ้ำ เหมือนกดดันตัวเองมากขึ้นไปอีกจนน้ำตาไหลเป็นครั้งแรกตั้งแต่ท้องมา มันน่าน้อยใจอ่ะ
แต่สามีปลอบว่า ไม่ต้องคิดมาก เพราะเค้ารู้ว่าวันๆเรากินอะไรบ้าง อีกอย่าง ลูกเราได้รับได้ของมีประโยชน์ คนที่กินขนมนมเนย ลูกเค้าก็ได้สารอาหารน้อยกว่าลูกเรา

หลังจากนั้นก็เลยไปลงเรียนโยคะคนท้อง จริงๆจะเรียนตั้งแต่เดือนที่แล้วแต่หมอบอกให้เริ่มได้เดือนนี้ แล้วก็พยายามพาจินเดินบ่อยๆถ้าฝนไม่ตก และมีเดินจากบ้านไปมาร์ทบ้าง ปกตินั่งรถเมล์ไม่ก็ขับรถไป ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เดินครึ่งชั่วโมงได้ จะพยายามเพื่อลูกเนอะ จะได้คลอดง่ายๆด้วย :)
























































รูปถ่ายตอน 22w 3d :)

หลังๆมานี่เวลาราโฮปน้อยดิ้นที มันรู้สึกสั่นสะเทือนไปทั้งพุงเลย นี่ขนาดยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าโดนถึบจนจุกนะ ><




ปล. ดีใจมาก ในที่สุดก็อัพบล็อคทันเหตุการณ์ปัจจุบันแล้ว 5555555




Wednesday 20 August 2014

16w 2d and 19w 2d It's baby GIRL!

* * *

วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2557 (20140706) - 16w 2d It's baby girl!














ขอก๊อบมาจาก ฟบ. ละกันเนอะ เพราะเท่าที่อ่านจากสมุดบันทึกที่เขียนไว้มันเหมือนกัน ^^


• สามีบอก นี่ไอมีลูกสาว 2 คนหรือนี่(รวมจินดัลเรด้วย 555) นี่บ้านเราจะมีแต่ผู้หญิงใช่มั๊ย 5555555

• โชคดีที่เรามีครอบครัวที่ไม่เคยกดดันเรื่องลูกชาย และโชคดีที่เรามีครอบครัวสามีที่ไม่เคยกดดันเรื่องลูกชายเช่นกัน ต้องขอบคุณพ่อ, แม่ และแม่สามี

• หมอที่เกาหลีจะไม่พูดตรงๆว่าลูกสาวหรือลูกชาย เพราะสมัยก่อนคนอยากได้แต่ลูกชายกัน พาลจะไม่เลี้ยงลูกสาว หมอจะพูดประมาณว่า ชุดสีชมพู/ฟ้า ส่วนหมอเราพูดว่า "ไม่มีอะไรขั้นระหว่างขา" 555555

• ชั่งน้ำหนักห่างจากคราวที่แล้ว 1 เดือนเต็ม ขึ้นมา 2 กิโลพอดิบพอดี ความดันลงมาเหลือ 128/72 แล้ว ดีใจมากกกกกกก อานุภาพผักและผลไม้สินะ ^^*

• น้องหนูเติบโตตามเกณฑ์ดี แต่ซาวด์ทีไรไม่ค่อยจะขยับเลย สงสัยจะเรียบร้อยเหมือนแม่แน่ๆ ;p

• พอรู้เพศแล้วก็แฮปปี้ดีนะ ทั้งเราทั้งสามีเลย ก่อนหน้านี้ที่แพลนจะมีลูก สามีอยากได้ลูกชายเพราะบ้านเค้ามีแต่ผู้หญิง ส่วนเราอยากได้ลูกสาว เพราะลูกๆญาติและพี่ตัวเองมีแต่ผู้ชาย ตอนเด็กๆไม่มีเพื่อนเล่นเลย แต่พอตั้งท้องปุ๊บ เราสองคนไม่ซีเรียสเลย เพศอะไรก็ได้ ขอให้แข็งแรงก็พอ ^_____^

• นั่งคุยกับสามีว่าลูกเราจะหน้าเหมือนเธอมั๊ย เพราะสังเกตลูกแรกของคนโน้นคนนี้ หน้าจะถอดแบบพ่อมาแป๊ะๆ ประเด็นคือ อยากให้ลูกหน้าเหมือนตัวเอง ไม่อยากให้เหมือนพ่อ 55555
//สามีหันมาบอกว่า งั้นเอาแค่จมูกไอไปละกัน ยูก็รู้นี่ว่าจมูกไอสวยกว่ายู -________-




พอหายแพ้ เรามีอาการเบื่ออาหารมากกกกกกก เบื่อแบบไม่รู้จะกินอะไร ไม่มีอะไรที่อยากกิน บางวันถึงขึ้นงอแงกันเลยทีเดียว ><
แล้วก็เริ่มฝึกกินข้าวนอกบ้านด้วย เพราะกำลังจะกลับไทย ที่ไทยไม่มีคนทำกับข้าวให้กิน จากที่ต้องกินผัดผักปรุงแค่เกลือ ก็ต้องฝึกกินอาหารปรุงรสให้ชินก่อนกลับ เช่น ชาบูชาบู เนื้อแกะปิ้ง(แกะมีประโยชน์กับคนตั้งครรภ์นะคะ) แล้วก็ต้องฝึกกินอาหารที่มีพวกน้ำซุป เพราะน้ำซุปส่วนใหญ่จะมีกลิ่น ^^


หลังจากนั้นก็กลับไทยประมาณ 10 วัน ปรากฏว่ากินได้เยอะกว่าที่คิด คงเพราะยังไงเราก็คนไทย อาหารไทยมันถูกปากมากกว่า ลูกคงชอบอาหารไทยด้วยเนอะ อิอิ





วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2557 (20140726) - 19w 2d น้องราโฮป
































• ความยาวจากหัวถึงตูดประมาณ 14 cm หมอบอก ถ้าวัดถึงขา น่าจะยาวประมาณ 20 cm และไม่มีอะไรขั้นระหว่างขาแน่นอน 5555

• จะว่าไปก็ครึ่งทางแล้วนะ เหลืออีกครึ่งทางจะได้เห็นหน้ากันแล้ว เร็วเนอะ ><

• น้ำหนักตั้งแต่ท้องจนถึงตอนนี้ ขึ้นมารวมทั้งหมด 5 กิโลแล้ว แต่ขอลบ 5 กิโลที่หายไปด้วยได้ม๊ย (แต่ 5 กิโลนี้ขึ้นมาภายใน 2 เดือน )

• ความดันลดลงมาต่ำกว่า 120/80 แล้ว วัดได้ 113/61 ดีใจมากกกกกก

• บางคนถามเรื่องชื่อ คงให้มีชื่อเกาหลีชื่อเดียว เพราะขี้เกียจคิดชื่อไทย 55555
แม่สามีจะเอาวันเดือนปี และเวลาเกิดไปให้พระท่านตั้งชื่อให้ เพราะฉะนั้นกว่าจะมีชื่อก็หลังคลอดเลย

• คนเกาหลีจะตั้งชื่อชั่วคราวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นชื่อผสมระหว่างพ่อกับแม่ สามีเลยตั้งว่า "ราโฮป" แต่เราไม่ชอบ เพราะมันไม่มุ๊งมิ๊งเลย
รา มาจากชื่อภาษาอังกฤษของสามี ชื่อไรอัน แต่เกาหลีออกเสียง ราอีออน ส่วน โฮป มาจากชื่อเราเอง :)

• ก่อนหน้านี้เวลาซาวด์ไม่เคยดิ้นให้เห็นเลย ช่วงวีคที่ 16 มีรู้สึกตอดๆบ้าง ละเมื่อวานมีคนโพสในคลับแม่ๆเรื่องลูกดิ้น บางคนเค้าเห็นเป็นปูดๆคลื่นแล้ว
ตอนเย็นๆเลยลองนอนมองท้องตัวเองดู ไม่มีคลื่นเลย แต่รู้สึกได้ชัดเลยว่า นี่คือความรู้สึก "ลูกดิ้น" เลยลองเอามือวางกดบนท้องเบาๆ ปรากฏว่าโดนถีบเต็มๆเลย ตอนกลางคืนก็ให้ยองอวูลองกดท้อง ก็รู้สึกเหมือนกัน ตอนที่เอามือวางบนท้องแล้วลูกถีบเป็นครั้งแรก เราอ้าปากหวอเลย มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงๆ แต่ที่รู้คือ มีความสุขมากกกกกกกก ^^

• หลังจากที่รู้สึกว่าลูกดิ้น ก็รู้สึกตลอดเลย(จนถึงตอนนี้) คือ...ดิ้นเยอะมากกกกกก แทบจะตลอดเวลา ขนาดตอนซาวด์หมอยังบอกว่าดิ้นเยอะมาก กว่าจะวัดความยาวได้ ใช้เวลามากกว่าเดิมหน่อย ^^



 ช่วงนี้สามีชอบคุยกับจินดัลเรว่า ถ้าน้องเกิดมาแล้ว จินจะเล่นอะไรกับน้องบ้าง จะรักน้องมั๊ย จินต้องดูแลน้องนะ 555 น่ารักเนอะ ^___^ 









Friday 15 August 2014

12 weeks 2 days



* * *
วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2557(20140607) - 12w2d

นับว่าเป็นคนที่โชคดีมากๆ ที่พอเข้าไตรมาส 2 ปุ๊บ อาการแพ้ท้องก็เริ่มดีขึ้น บางวันอาเจียนบ้าง แต่บางวันก็ไม่เลย ได้ยินว่าบางคนจะแพ้ไปถึง 4-5 เดือนเลย

ตอนที่เข้าปลายไตรมาส 2 สามีอยากให้เริ่มกินผักได้แล้ว เพราะที่ผ่านมากินแบบจิปาถะมาก เลยลงมือทำอาหารให้ทั้ง 3 มื้อ ตอนกลางคืนเลิกงานก็จะแวะมาร์ทไปซื้อของมาทำให้ แล้วแช่ตู้เย็นไว้ พอจะกินก็ค่อยเอาออกมาอุ่น เป็นผัดผักรวมมิตร เปลี่ยนผักไปแล้วแต่มื้อแต่วัน ใช้น้ำมันแคโนลา ปรุงแค่เกลือเท่านั้น เพราะยังเหม็นกลิ่นอาหารอยู่ เลยยังกินอาหารปรุงรสไม่ได้ แต่ก็ถือว่าได้กินคลีนไปในตัว :D

วันนั้นมีนัดอัลตร้าซาวด์ และวัดความดัน, ชั่งน้ำหนักเป็นครั้งแรก เพราะได้เพิ่งส่งตัวจากแผนกคนมีลูกยากไปแผนกปกติ ความดันขึ้นมาถึง 145/98 (ระดับปกติไม่ควรเกิน 120/80) พอรู้ความดันตัวเองแล้วตกใจเลย ก็ว่าทำไมถึงเหนื่อยง่ายเหลือเกิน แค่อาบน้ำเสร็จยังออกมานั่งหอบเหมือนกับไปคาดิโอมา เพราะความดันนี่เอง แถมน้ำหนักยังลดลงไปประมาณ 5 กิโลกรัม จากที่แพ้มาอย่างหนักหน่วง ><

กังวลเรื่องความดัน เลย inbox ไปหาคุณหมอในเพจ "ใกล้ชิดมิตรหมอ" คุณหมอบอกว่า ปกติถ้าความดันยังไม่ถึง 150 จะยังไม่จ่ายยา และแนะนำให้อ่านบทความเรื่อง ครรภ์เป็นพิษ เตรียมตัวไว้ก่อน จากบทความที่คุณหมอแนะนำให้อ่าน ทำให้รู้ว่า ช่วง 20 สัปดาห์ ถ้ามีความดันสูงจะมีโอกาสทำให้ครรภ์เป็นพิษ ตอนนั้นกังวลมาก แต่ก็พยายามทำใจร่มๆไว้ และพยายามกินแต่อาหารที่มีประโยชน์เท่านั้น

และคุณหมอคนใหม่ที่ฝากท้องแนะนำให้กินวิตามิน OMEGA3 และ แคลเซียม-แมกนีเซียม :)



























ซาวด์รอบนี้เป็นแบบ 3D





























เห็นแขนขาชัดเลย อัตราการเต้นของหัวใจก็ปกติดี แต่ไม่ค่อยดิ้นเท่าไหร่ หมอที่ซาวด์บอกน้องนอนหมอบอยู่ ^^
เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นลูกแบบละเอียดๆแบบนี้ พอกลับมาบ้านแล้วก็มองรูปแล้วมองอีก มองไปยิ้มไป มีความสุข

พอเข้าช่วง 16 วีค เริ่มรู้สึกตอดๆทางซ้ายบ่อยมาก เดาว่าเป็นความรู้สึกลูกดิ้น แต่ก็ยังไม่แน่ใจมาก ไม่อยากคิดไปเอง เพราะได้ยินว่าท้องแรกจะรู้สึกช้า :)



Monday 11 August 2014

My first step of being a mother

* * *
เราและสามีตั้งใจจะมีลูกตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน ไปตรวจร่างกายทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วพบว่า เราไม่มีแค่ภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งถึงจะไม่มีภูมินี้ก็ยังตั้งครรภ์ได้ปกติ แถมตอนนั้นสามียังเข้าใจผิดคิดว่าห้ามฉีดวัคซีนนี้ขณะตั้งครรภ์ เราเลยเลือกที่จะไม่ฉีด เพราะตอนนั้นอยากมีลูกมาก ไว้ค่อยฉีดหลังมีลูกก็ได้ ส่วนสามีนั้นปกติดี
(มารู้ตอนหลังว่าฉีดวัคซีนขณะตั้งครรภ์ได้ แต่หมอบอกว่า ที่เกาหลีจะแนะนำให้ฉีดหลังคลอด :))

ปรึกษาหมอเสร็จ หมอบอกให้ลองเองโดยธรรมชาติดูก่อนสัก 1 ปี ถ้าไม่ติดค่อยกลับมาใหม่ ซึ่งปีครึ่งผ่านไปก็ยังไม่สำเร็จสักที ยอมรับเลยว่าเคยเครียดจนถึงขั้นไม่สบาย เครียดลงกระเพาะ อาเจียน ร้องไห้ เห็นคนอื่นมีลูกเราก็อิจฉา เห็นเพื่อนๆท้อง ทำไมไม่ใช่เราสักที ใครๆก็บอกว่าอย่าเครียด เครียดแล้วน้องจะไม่มา แต่บางทีมันก็อดคิด อดน้อยใจไม่ได้จริงๆนะ ก็คนมันอยากมีลูกนี่นา อยู่กับความรู้สึกนั้นไประยะนึงก็บอกกับตัวเองว่า ไม่เอาแล้ว ไม่อยากเครียด ไม่อยากไม่สบาย เลยพยายามปลอบใจตัวเอง ทำใจให้เข้มแข็ง สามีก็คอยอยู่ข้างๆปลอบใจตลอด

จนเมื่อสักปลายไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว(2556) จู่ๆสามีก็พูดขึ้นมาว่า เราไปปรึกษาหมอกัน พอไปถึงก็เจอหมอคนเดิม เค้าเลยส่งเราไปที่แผนกคนมีลูกยาก ตอนนั้นไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมานั่งอยู่ในแผนกนี้ T^T หมอสูติก็ซาวด์ผนังมดลูก ส่งไปตรวจท่อนำไข่โดยการฉีดสีเข้าไปแล้ว x-ray ขอบอกว่ามันเจ็บมากจนเราร้องโอ้ยออกมาเลย แต่ทุกอย่างก็ปกติ สามีก็เสนอตัวจะตรวจเสปิร์มของตัวเองด้วย สรุปได้ว่าเป็นปัญหาที่สามีนิดหน่อย แต่ไม่ใช่เคสซีเรียดอ่ะไร (ตอนนั้นขอบคุณสามีมากๆที่เสนอตัวตรวจ รู้สึกเลยว่าเค้าเป็นผู้ชายที่แมนมากๆ บางคนไม่อยากจะตรวจด้วยซ้ำ)

หมอเลยจ่ายยา clomiphene มาให้ ซึ่งเป็นยาเร่งไข่ตก แล้วก็นัดอัลตร้าซาวด์เช็คว่าไข่ตกรึยัง พอตกมาแล้วก็นัดวันฉีด pregnyl(HCG) ที่สะโพก ซึ่งเป็นยาที่ใช้ร่วมกันกับ clomiphene หลังจากนั้นก็กำหนดวันทำการบ้าน ถ้าประจำเดือนมาก็มาหาหมอเพื่อขอใบสั่งยานี้อีก
ซึ่งชีวิตเราก็วนเวียนอยู่กับกระบวนการนี้ไปอีกประมาณครึ่งปี จำได้ว่าตั้งแต่กันยายน2556-กุมภาพันธ์2557 ก็มีหดหู่บ้างเป็นบางครั้ง เพราะสามีทำงาน และเรากำหนดวันประจำเดือนมาไม่ได้ พอมาวันธรรมดาทีก็ต้องไปโรงบาลคนเดียว เลยนอยๆบางนิดหน่อย

เดือนมีนาคม 2557 หมอเสนอให้ทำ Intra-uterine Insemination(IUI)-การฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง ซึ่งหมอก็ทำตามกระบวนการเดิมคือ จ่ายยา clomiphene นัดวันมาซาวด์ว่าไข่ตกรึยัง ฉีดยา ซึ่งรอบนี้โดนฉีดแทบจะวันเว้นวัน เพื่อให้ไข่เติบโตสมบูรณ์ ฉีดยาก่อนหน้านี้มาเกือบ 6 เดือน เดือนละเข็ม รอบนี้โดนไปอีกประมาณ 5 เข็มได้ กว่าจะท้องนี่โดนฉีดไป 10 เข็มได้ สะโพกพรุนไปหมด จนหมอที่เป็นคนฉีดยาถามว่า...จะเปลี่ยนข้างบ้างมั๊ย 555 และรอบสุดท้ายที่โดนฉีดคือฉีดเข้าทางหน้าท้อง ตอนแรกหมอบอกให้ฉีดเองที่บ้านได้ หรือให้สามีฉีดให้ก็ได้ เค้าจะสอนให้ แต่เรากับสามีกลัวมาก กลัวฉีดไม่ตรงที่ กลัวจิ้มลึกเกินไป บลาๆๆ เลยขอนัดวันให้หมอฉีดให้ดีกว่า >____<

Intra-uterine insemination (IUI)
Intra-uterine insemination (IUI)


วันพุธที่ 26 มีนาคม 2557(20140326)

เป็นวันที่ทำ IUI หมอนัดตอน 10.45น. แต่นัดสามีไปตอน 9.00น. เพื่อไปเอาเสปิร์มออกและคัดเสปิร์ม ขั้นตอนการทำ IUI ไม่ยากเลย พอถึงเวลานัด พยาบาลก็เรียกให้ไปเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมที่เค้าเตรียมให้ แล้วพาไปที่เตียงขาหยั่ง ช่วยจัดท่าให้  ให้เช็คหลอดแก้วที่ใส่เสปิร์มว่าเป็นของสามีเราถูกต้องใช่มั๊ย แล้วพยาบาลก็ยืนรอหมอ กุมมือไว้ข้างหน้าอยู่ข้างๆเตียงเรา ยืนท่าเรียบร้อย หลังตรง ดูเคารพคนไข้สุดๆตามสไตล์คนเกาหลีอ่ะนะ แต่พอเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ ;p

ขั้นตอนการทำ IUI ไม่เจ็บเลย ฉีดยายังเจ็บกว่า ฉีดเสร็จก็ในนอนบนขาหยั่งอยู่เฉยๆ 10 นาที แล้วก็กลับบ้านได้ อ่ะ แล้วก็จ่ายยาเหน็บที่ชื่อ Utrogestan มาด้วย เพื่อช่วยในการฝังตัวอ่อน
รายละเอียดของยาตามนี้ >> http://www.besins-healthcare.com/pdf/Utrogestan%20200mg%20PIL%20%28Thai%29.pdf

หลังจาก 10 นาทีนี้แล้วเดินเหินได้ตามปกติ ไม่จำเป็นที่จะต้องนอนเฉยๆตลอดเวลา เพราะหลังจากออกจากโรงบาล เราก็เดินไปทำธุระกับสามีเยอะมาก ดูจาก step counter app ในมือถือแล้ว วันนั้นเดินไปประมาณ 7000 กว่าก้าวได้ -"-
แถมตอนขับรถกลับบ้าน สามียังบอกว่าควรจะขึ้นลูกระนาดแรงๆมั๊ย ช่วยไข่กับเสปิร์มผสมกัน คิดได้นะ -"-



วันอังคารที่ 8 เมษายน 2557(20140408)

หมอนัดตรวจเลือด เพื่อเช็คว่าตั้งครรภ์หรือไม่ หมอถามว่า จะให้โทรไปบอกผลที่เราหรือที่สามี แต่เรากลัวๆ ไม่อยากฟังผลเท่าไหร่ เลยขอให้โทรไปบอกสามีแทน ซึ่งตอนเย็นสามีก็โทรมาบอกผลกับเราว่า ท้องแล้วนะ ดีใจมากกกกกกกก แล้วก็เจอบัญญัติ 10 ประการจากสามี ห้ามโน่นห้ามนี่ ห้ามนั่น ห้ามทำงั้นงี้ ต้องระวังโน่นนี่ 55555
จริงๆก็คิดๆไว้แล้วว่าน่าจะสำเร็จ เพราะหลังจากที่ทำ IUI ไปสักอาทิตย์นึง เราเหนื่อยง่ายมาก เดินนิดเดียวก็เหนื่อยแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากคิดไปเอง เลยทำใจร่มๆไว้ ^^ ช่วงก่อนหน้านั้นเราก็ดูเครียดๆเหมือนกัน จริงๆไม่รู้ตัวหรอก แต่สามีพูดขึ้นมาว่าดูเครียดๆ แต่พอฟังผลแล้วก็สบายใจขึ้นมาเลย :D



วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน 2557(20140417)

เป็นวันที่ทั้งกังวล และตื่นเต้นไปพร้อมๆกัน เพราะวันนั้นเป็นวันที่หมอนัดอัลตร้าซาวด์ ใจหวั่นๆกลัวว่าซาวด์แล้วจะไม่เห็นอะไรเลย ปรากฏว่า... เห็นอะไรกลมๆ สีดำๆ กลมๆรีๆ หมอบอกว่าคือ baby house ขนาด 0.11cm ภาษาเกาหลีก็ตรงตัวเลย 아기집 ^^ เสียดายที่หมอไม่ได้ปริ๊นมาให้
หมอบอกอายุครรภ์ 5 สัปดาห์ ก็งงว่าทำไม 5 สัปดาห์ เพราะถ้านับจากวันที่ทำ IUI ก็น่าจะมาประมาณ 3 สัปดาห์นี่นา สรุปคือ หมอส่วนใหฯ่จะนับเอาจากวันที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายนี่เอง


หลังจากนั้นสักอาทิตย์นึง ก็เริ่มมีอาการแพ้ท้อง เหน่ื่อย กินอะไรก็ไม่อร่อย กินน้ำเปล่าไม่ได้เลย T^T




วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2557(20140424)

วันนี้สามีลางาน พาไปตามนัดหมออัลตร้าซาวด์

































จริงๆพอนัดซาวด์ทีก็กังวลทีนะ กลัวซาวด์แล้วไม่เจอ กลัวจะหายไปไหน แต่วันนี้เป็นวันที่ได้ยินเสียงหัวใจลูกเป็นครั้งแรกเลย ฟังแล้วชื่นใจที่สุด
หมอบอกตัวอ่อนยาว 0.32cm อัตราการเต้นของหัวใจก็ปกติดี ^_______^


หลังจากนั้นก็มีอาการแพ้อย่างหนักหน่วง กินอะไรก็อาเจียนออกมาหมด อาเจียนวันละเป็น 10 รอบได้ บางทีตอนเช้าก็ชอบอาเจียนน้ำย่อย ซึ่งมันทรมารมาก เพราะต้องขย้อนออกมา นอกจากจะแสบกระเพาะแล้ว ยังแสบมาถึงหลอดอาหาร แสบคอ เลือดกำเดาไหล ทำอะไรก็เหนื่อย ได้แต่นอนซมอยู่บนเตียง แต่ชีวิตยังต้องสู้ต่อไป ข้อเสียของการอยู่เมืองนอกคือ เวลาเกิดอะไรแบบนี้แล้วได้แต่อดทน เพราะกลางวันอยู่คนเดียว ต้องช่วยตัวเองสุดๆ Y___Y




วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2557(20140510) - 8w 2d


สามีพาไปโรงบาลตอนเช้า เพราะมีนัดอัลตร้าซาวด์ เนื่องจากแพ้หนักมาก เลยไปปล่อยระเบิดไว้ที่โรงบาล 1 รอบ ดีนะที่เดินไปเข้าห้องน้ำทัน ><



































เริ่มเห็นอวัยวะเป็นส่วนๆแล้ว แขน ขา ศีรษะ กลมๆเหมือนโดราเอมอนเลย หัวใจก็เต้นปกติดี ความยาวตัวอ่อน 1.91cm

หน้าตาแม่ดูอิดโรย หมดแรงมาก จนหมอและพยาบาลทักเลย 5555


เริ่มจะยาวแล้ว ขออัพเดทแค่นี้ก่อนเนอะ ไว้มาต่อวันหลังจ้า :)

























Monday 4 August 2014

long time no see

* * *

หายไปนานเลยรอบนี้ เนื่องจากไม่สบายอย่างหนัก เรียกง่ายๆว่ามีอาการแพ้ท้องจะง่ายกว่า :)
จริงๆช่วงที่แพ้ท้องนี่กินเวลาไปประมาณ 2 เดือนครึ่ง แต่คงเพราะแพ้หนักเลยทำให้รู้สึกมันยาวนานกว่านั้น

ตอนนี้กลับมากินได้เหมือนเดิม สบายดี หายเป็นปกติแล้ว เลยแวะมาอัพบล็อคซะหน่อย หลังจากที่ปล่อยร้างมานาน

ช่วงที่(เดือนสิงหาคม) ที่เกาหลีเป็นหน้าร้อน(ค่อดๆ)แล้ว ไม่แพ้บ้านเราเลย เมื่อวานชวนสามีพาจินออกไปเดินเล่นกัน ขับรถออกไปที่เดิน Ilsan Lake Park ไปมันได้ทุกฤดูไม่เคยเบื่อเลย







ถ่ายรูปมานิดหน่อย แต่ชอบรูปนี้ที่สุดเลยขอลงแค่รูปเดียวเนอะ ^^


 * มา edit เอารูปลงคอมแล้วเพิ่งเห็นว่ามีรูปนี้ สามีเป็นคนถ่ายไว้ :D


น้องจินเดินเยอะมาก แต่อากาศก็ร้อนมากจนต้องให้น้ำเป็นระยะๆ ไม่ได้พาออกมาเดินแบบนี้นานแล้วเหมือนกันคงมีความสุขไม่น้อยเลย พอกลับถึงบ้านก็สลบอย่างที่คิดไว้จริงๆ 55

ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นได้ว่าพุงเริ่มโตแล้ว ตอนนี้ท้องได้ 20 สัปดาห์ 4 วันแล้ว อีกเดือนเดียวจะเข้าไตรมาส 3 แล้ว เวลาผ่านไปไวจริงๆ ไว้จะมาอัพบล็อคย้อนหลังช่วงที่แพ้มากๆใหม่ แต่พอผ่านช่วงนั้นมาได้แล้วมันก็ลืมๆความรู้สึกทรมานไปเยอะเหมือนกัน แต่ดีที่ปกติมีเขียนไดอารี(แบบสมุด)ไว้อยู่แล้ว ไว้จะไปเปิดๆอ่านดูเพื่อระลึกถึงช่วงเวลานั้นสักหน่อย ><